ติดต่อลงโฆษณา: dashcamcar@gmail.com
  • น้ำใจคนในวิดีโอ

    อยากให้ท้องถนนในสังคมไทยมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อกัน แบบในคลิปต่างประเทศ

    ผมเชื่อว่าสังคมไทย มีน้ำใจ ไมตรี และเอื้ออารีต่อกันอย่างที่หลายๆประเทศทำไม่ได้ ร่วมกันแบ่งน้ำใจให้กับทุกชีวิตบนท้องถนน

    ร่วมมือกัน เราทำได้
  • ปลอดภัยทุกเส้นทาง

    ลดการสูญเสียและปัญหาบนท้องถนนได้ หากเราใส่ใจร่วมมือกัน รักษากฏจราจร

    ใช้สติไม่ใช่อารมณ์ ท้องถนนและสังคมไทยจะน่าอยู่ขึ้น

    ร่วมมือกัน เราทำได้

ผู้ผลิตกล้องติดรถไต้หวันหลายราย ตบเท้า แสดงในงาน Computex 2015

กล้องติดรถในงาน Computex Taipei 2015

เช่นเคย ถัดจากปีก่อนที่เคยนำเสนอ เทคโนโลยี เกี่ยวกับ กล้องติดรถ ในงาน Computex 2014 ปีนี้เราก็นำข่าวสาร และภาพมาฝากเช่นเคยครับ



สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย Computex งานนี้คืองานแสดงสินค้าคอมพิวเตอร์ และไอที ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและใหญ่ เป็นอันดับสองในโลกจาก CeBIT ในประเทศเยอรมนีครับ ในงานจะมีนวัตกรรมใหม่ๆมากมาย สำหรับอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์นั่นเอง

ในงานปีนี้เรียกได้ว่า ผู้ผลิตกล้องไต้หวันเอง ก็ตบเท้าเข้ามาแสดงศักยภาพ และความโดดเด่นของสินค้า มากมาย โดยใน Blog ของผม จะเน้นไปที่ กล้องติดรถ เป็นหลักครับ




เริ่มที่ กล้องติดรถยนต์ Transcend กับ DrivePro 520 และ DrivePro Body 10



ภายในงาน ยังคงเน้น การแสดงประสิทธิภาพของกล้องติดรถ Drive Pro 220 รุ่น Flagship ตัวล่าสุดที่ผลิตออกมาจำหน่ายแล้วในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งมาพร้อมฟังก์ชั่น LDWS การแจ้งเตือนเมื่อขับออกนอกเลนส์ถนนโดยไม่ได้ตั้งใจ และ FCWS การแจ้งเตือนก่อนชนคันหน้า

ภายในงานยังมีตัวอย่างโชว์ Concept กล้องติดรถ Transcend รุ่นใหม่ล่าสุด อีก 2 รุ่น คือ DrivePro 520 ซึ่งจะเป็นกล้องสองเลนส์ ที่บันทึกภายนอก ไปพร้อมๆกับภายในห้องโดยสาร มาพร้อม GPS และ WiFi



และ DrivePro Body 10 ซึ่งเป็นกล้องติดตัว สำหรับตำรวจหรือบุคคลที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะ โดยสามารถบันทึกวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดแบบ FHD 1080P มีมุมกล้องที่กว้างถึง 160 องศา และมี ไฟอินฟราเรด 4 ดวง เพื่อบันทึกเวลากลางคืน และแบตเตอรี่ 1530 mAh ถือว่ามากสำหรับกล้องพกพาครับ





ทั้งสองรุ่นใหม่นี้ ยังไม่วางจำหน่ายในปัจจุบัน

กล้องติดรถ Vicovation 


ในส่วนกล้องติดรถ Vicovation ได้มีการโปรโมทกล้องรุ่นใหม่ๆอีกหลายรุ่น ตามแบนเนอร์ครับ



จะเห็นได้ว่า กล้อง Marcus 1 และ Marcus 3 และรุ่นก่อนหน้าในปี 2013 ได้ถูกถอดออกจากสายการผลิตอย่างถาวร และมีการดันรุ่นใหม่ๆเข้ามาแทน รวมถึงมีการเพิ่ม Vico Power Plus ซึ่งเป็น อุปกรณ์ประเภทเดียวกับ Power Magic Box วัดไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์ ซึ่งต่อไฟเลี้ยงเข้าตัวกล้องเพื่อบันทึก เวลาผู้ขับขี่ไม่อยู่ในห้องโดยสาร หรือดับเครื่องยนต์นั่นเอง

ในส่วนของ Vico Oscar2, Marcus S+ และ Marcus WiFi ยังไม่มีจำหน่ายในปัจจุบัน แต่สเปคดูแล้วไม่เลวเลยทีเดียว

กล้องติดรถ Papago


ภายในงานไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นเท่าไหร่นัก เพราะไม่มี ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอะไรมานำเสนอเหมือนแบรนด์อื่น อาจเป็นไปได้ว่า ระหว่างปี มีออกรุ่นใหม่ต่อเนื่องอยู่ตลอด ไม่ได้รองานแสดงก็เป็นได้




แต่ภายในงาน กล้องติดรถ Papago ได้รับรางวัล เรื่องการออกแบบผลิตภัณฑ์อีกครั้งกับรุ่น Gosafe 150S เนื่องจากเป็นกล้องติดรถที่เล็ก ประหยัดพื้นที่


ลองเข้าไปอ่านคุณสมบัติของ Papago Gosafe 150S ที่สามารถบันทึกได้ 24 ชั่วโมง ขนาดเล็ก และเก็บหน้าจอเข้าตัวเครื่องได้ ที่นี่

เทรนด์กล้องติดรถรุ่นใหม่ไต้หวัน ปี 2014 ในงาน Computex Taipei

เทรนด์กล้องติดรถไต้หวันในงาน Computex 2014

งาน COMPUTEX เป็นงานรวมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของไต้หวัน ซึ่งรวบรวมสินค้า โปรดักส์ใหม่ๆมาออกงานกันด้วย ในที่นี้เราทำบล๊อคเสนอข่าว กล้องติดรถยนต์ ก็จะรวบรวมข่าวสารกล้องติดหน้ารถมาฝากกัน


ในงานมีบริษัทใหญ่ๆอย่าง Taiwan-micron technology DigiLife, Dict Abee, PAPAGO ก็มาแสดงด้วย โดยภาพรวมของแนวโน้มกล้องติดรถยนต์ในปีนี้ เทรนด์ผู้ผลิตเปลี่ยนไปใช้ชิพ Ambarella A7 กันกว้างขวางขึ้น เพราะชิพตัวนี้รองรับการถ่ายวิดีโอที่ระดับ 1296P high-definition ทำให้ได้ภาพที่คมชัดกว่าเดิม อีกทั้งยังรองรับโมดูล GPS ต่างๆ รวมถึงขนาดที่เล็กลงอีกด้วย

เริ่มจาก กล้องติดรถยนต์ VicoVation


เริ่มจาก Vicovation ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งที่ไต้หวันเอง ก็มาออกบู๊ธนำเสนอสินค้าด้วย


จุดเด่นคราวนี้น่าจะอยู่ที่ รุ่น Vico Marcus 5 ซึ่งมีสามารถบันทึกหน้ารถหลังรถได้พร้อมกัน


ด้านข้างของ Marcus 5 มีช่อง HDMI OUT และ GPS สำหรับต่อกับเสารับสัญญาณซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมไม่มีในชุดปกติ


ด้านข้างมีช่องใส่ SD Card มีพลาสติกสำหรับปิดกันฝุ่นละออง อีกทั้งมีรูระบายความร้อน


ด้านหน้ามีปุ่มกดพร้อมปุ่ม Emergency Button สำหรับล๊อคไฟล์ด้วยตัวเอง กรณีไม่เชื่อใจ G-Sensor ของระบบอัตโนมัติ


ส่วนกล้องหลังของ Vico Marcus 5 มีขนาดเล็ก และต้องลากสายไฟจากด้านหน้ามาเป็นไฟเลี้ยง


ในชุดยังมีอุปกรณ์การติดตั้งแบบต่างๆให้ติดตั้งในหลายลักษณะแล้วแต่ความเหมาะสมของกระจกรถแต่ละรุ่น


ขนาดกล้องมองหลังของ Marcus 5 เทียบกับเหรียญ 10 ไต้หวัน

ส่วนที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือรุ่น Vico Marcus 4 ที่เป็นรุ่นอัพเกรดจาก Vico Marcus 3 นั่นเอง จริงๆใช้บอดี้เดิม รองรับความละเอียดเดิมคือ 2304*1296 High Resolution Video และลักษณะการติดตั้งเหมือนเดิมทุกอย่างรวมถึงความสามารถในการรองรับ CPL Lens เพื่อตัดแสง แต่ที่เหนือกว่ารุ่นเดิมๆคือการเอาเทคโนโลยี UHDR มาใช้ ซึ่งว่ากันว่าเหนือกว่า HDR ในเวลาที่สภาพแสงไฟน้อย ซึ่งดีกว่าจริงหรือไม่ต้องรอพิสูจน์จากหลายแหล่งต่อไป


แม้ว่าจะเริ่มยกเลิกสายพานการผลิตแล้วแต่ Marcus 3 ก็นำมาออกงานแสดงกับเขาด้วย



กล้องติดรถยนต์ PAPAGO

ในงานนี้เรียกได้ว่ามี PAPAGO GOSAFE 510 เป็นตัวชูโรง หรือ เรียกกันว่า Flagship เป็นรุ่นที่เหนือกว่ารุ่นเดิมๆคือรองรับการถ่ายวิดีโอคุณภาพสูง 2304*1296 หน้าจอ 2 นิ้ว มุมมอง 160 องศา และใช้ iris lens รองรับ Micro SD Card สูงสุด 32GB และ GPS Logger

กล้อง PAPAGO GOSAFE 510 ใช้ชิพ Ambarella A7 รองรับการบันทึก 1296P @ 30FPS, 1080P @ 30FPS, 720P @ 60FPS และ 720P @ 30FPS มาพร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go Alert, Driver Fatigue Warning, ระบบการอ่านป้ายจำกัดความเร็วข้างทาง และฟังก์ชั่นอื่นๆอีกด้วย ซึ่งเป็นกล้องที่นอกจากคุณภาพและคุณสมบัติพร้อมแล้ว ยังมีน้ำหนักเบาเพียง 61 กรัม ในส่วนของขนาด ก็เล็กเพียง 7 * 5.2 * 3 เซนติเมตรเท่านั้น ทำให้ประหยัดพื้นที่ไปได้มาก



ดูด้านหลังจอ 2 นิ้ว ปุ่มกดเหมือนๆกับค่าย Vicovation


ด้านซ้ายรองรับการใส่ Micro SD Card 32GB


ด้านขวารองรับช่องจ่ายไฟ, HDMI OUT และ GPS Antenna


กล้องติดรถ Dict Abee

กล้องยี่ห้อนี้อาจไม่คุ้นหูเท่าไรนัก แต่เป็นแบรนด์ที่มีกล้องหลากหลายความต้องการของผู้ใช้งานในไต้หวัน กล้องยี่ห้อนี้แบ่งความคมชัดในแต่ละรุ่นเป็นกล้องติดหน้ารถแบบ HD, Full HD และ Full HD + GPS ซึ่งมาพร้อมกับสเปคมาตรฐานเช่น ปุ่มล๊อคไฟล์ Emergency Button, G-Sensor และ Motion detection recording ซึ่งส่วนใหญ่มาพร้อมกับแบตแบบลิเที่ยม และหน้าจอในตัว ซึ่งในปีนี้กล้องติดหน้ารถภายใต้แบรนด์ Dict Abee ก็จะนำฟีเจอร์ต่างๆแบบกล้องยี่ห้ออื่นๆเช่น LDWS/FCWS, 3DNR WDR, Wifi, GPS มาเสริมให้รุ่นใหม่ๆที่จะออกในอนาคตด้วย


กล้องของ Dict Abee รุ่น C3G ยังได้รางวัลชนะเลิศเรื่องดีไซน์จากในงาน Computex ด้วยนะ



สุดท้าย Taiwan Micron technology DigiLife

ชื่อ DifiLife ไม่เกี่ยวกับร้านขายกล้องในบ้านเราแต่ ชื่อบริษัทนี้เป็นบริษัทที่รับทำแบรนด์ให้กับกล้องแบรนด์ต่างๆ (OEM, ODM) ซึ่งในงานแสดงได้จัดแสดงรุ่นใหม่อีกสองรุ่นคือ Series SP8 และ SP82 ซึ่งว่ากันว่าใช้เลนส์ที่คมชัดกว่าที่บริษัทนี้ออกมาก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งบางรุ่นก็รองรับ GPS เหมือนแบรนด์อื่นๆ



ในงานนี้ได้จบไปเรียบร้อยแล้ว ใครที่จะเตรียมพร้อมไปครั้งหน้า มีค่าตั๋วเข้าชม 200 หยวน และต้องเป็นบุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไปครับ

กล้องติดรถยนต์ไต้หวัน GARMIN GDR 190 มุมมอง 200 องศา พร้อม GPS

กล้องติดรถยนต์ GARMIN รุ่นใหม่ GDR190

กล้องติดรถ GARMIN สองเลนส์รุ่น GDR 190


ซุ่มเงียบมาพักใหญ่หลังจากเปิดตัวในงานแสดงสินค้าที่ผ่านมา คราวนี้ GARMIN ชูกล้องติดรถยนต์รุ่นใหม่ GARMIN GDR 190 พร้อมคุณสมบัติเด่นที่เหนือกว่าแบรนด์อื่นๆ มุมมองที่มากถึง 200 องศา และ ฟังก์ชั่น FCWS สำหรับแจ้งเตือนก่อนรถจะชนคันหน้า





มาพร้อมฟังก์ชั่น GPS

บันทึกภาพพร้อมพิกัด GPS จากกล้องติดรถยนต์ตัวเดียว เปิดดูย้อนหลังได้ทั้งภาพวิดีโอ แผนที่ เวลา และความเร็วรถ ผ่านซอฟแวร์ของ Garmin

แบตเตอรี่ในตัวมากถึง 1500mAh บันทึกต่อเนื่องแบบไม่เสียบชาร์จไฟได้ 90 นาที

เหนือกว่ายี่ห้ออื่นด้วยแบตเตอรี่ในตัวที่สูงและระยะเวลาที่ยาวนาน

G-sensor บันทึกอัตโนมัติเมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือน

ล๊อคไฟล์อัตโนมัติเมื่อเกิดการชนกระแทก หรือ สั่นสะเทือน

รองรับ SDHC memory card สูงสุด 32GB

เหมือนกล้องติดรถยนต์รุ่นอื่นๆที่ยังรองรับได้ 32GB

กล้องติดรถ GARMIN GDR 190 มีคุณสมบัติ F 2.0 ซึ่งจะไวต่อการรับแสง และดีต่อการบันทึกเวลากลางคืน ซึ่งจะลด Noise ในตอนกลางคืนได้ดี กล้องรุ่นนี้ GARMIN บอกว่า สามารถบันทึกได้โดยที่ภาพไม่โดนบีบอัดอีกด้วย



หน้าจอแบบฝาพับ (ให้ความคุ้นเคยเหมือนกล้องฝาพับราคาถูกของจีน) หน้าจอ 3 นิ้ว


ฟังก์ชั่นเตือนก่อนชนคันหน้าแบบกล้อง PAPAGO ซึ่งจะมี Sensor ตรวจจับวัตถุด้านหน้าและกล้องจะส่งเสียงเตือนก่อนจะชน




ฟังก์ชั่นแจ้งเตือนกล้องตรวจจับความเร็วสูงสุดบนท้องถนน (มีเฉพาะที่ไต้หวันเท่านั้น ในตอนนี้)



เปิดดูรายละเอียดของวิดีโอที่บันทึกพร้อมพิกัดด้วย PC TOOL


สามารถใช้ฟังก์ชั่น Parking Detect ได้ (ต้องต่อสายตรงกับรถยนต์ที่ผลิตจาก GARMIN โดยเฉพาะ)



คุณสมบัติของกล้องติดรถ GARMIN GDR 190

ขนาดยาว 10 × กว้าง 8.2 × 3.1 cm ลึก
น้ำหนัก185 g
GPSมี ระบุพิกัดความเร็ว ไม่ใช่นำทาง
หน้าจอ3 นิ้ว TFT LCD
รูรับแสงF = 2.0
ระยะการถ่ายDiagonal viewing angle of 204 degrees (horizontal viewing angle: 200 degrees vertical viewing angle: 74 degrees)
Sensor3M, 1/3 inch, CMOS
Frame Rate30 FPS
Video FormatAVI (H.264 compression technology)
Collision SensorsThere are three sections collision sensor sensitivity setting
Battery1500mAh, บันทึกได้ประมาณ 1.5 ชั่วโมง
Microphoneมี
Speakerมี
Speed ​​Detectionมี
Memory card slotmicroSD, SDHC (แนะนำให้ใช้ 8GB, Class6 ขึ้นไป)
Recording Mode
Driving Recording Mode: HD level (1920x1080 pixels)
30fps per second, a single file 256MB, recording time is about 2 minutes and 50 seconds, about 1.5 hours can be recorded
Stop Recording Mode: HD level (1920x1080 pixels)
30fps per second, a single file 50MB, recording time is about 30 seconds
Note: GDR 190 actual recording visual range of 1920x720 pixels.
Ambient temperature0 to 60 degrees Celsius


อุปกรณ์ในกล่อง

  • กล้องติดรถยนต์ GDR
  • ขาติดกระจกแบบกาว 3M
  • สายชาร์จรถ
  • microSDHC memory card (included PC Tool image file management software)
  • คู่มือการใช้ภาษาจีน

รายละเอียดรูปภาพเพิ่มเติม

ราคาจำหน่ายยังไม่ทราบ สินค้ายังไม่วางขายในตลาด โดยจะเริ่มจำหน่ายที่ไต้หวันก่อน สำหรับเมืองไทยหากมีโอกาสนำเข้าน่าจะใช้เวลา 6 - 12 เดือน 

โดยประมาณราคาน่าจะแพงกว่า 8,000 บาท (เพราะกล้องรุ่นเดิม GDR 35 กล้องเดี่ยวอยู่ที่ 7xxx บาท ตัวนี้เป็นเลนส์คู่ แถมรุ่นใหม่กว่าด้วย)

DOD ออกงาน CES ตั้งแต่วันที่ 1/7 - 1/10 U.S.

ผู้ผลิตกล้อง DOD จัดแสดงงานโชว์สินค้าใหม่ที่งาน CES 2014



งาน CES (International Consumer Electronics Show) ถูกจัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการรวมตัวผู้ผลิตสินค้าอิเล็คโทรนิคส์แทบทุกชนิด (CEA) มารวมตัวกันจัดแสดงมหกรรมสินค้า และนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นงานแสดงสินค้าอิเล็คโทรนิคส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ครับ



ใน 1 ปี จะมีผู้ผลิตจากทั่วโลกเกือบ 3,000 รายมาออกงาน และผู้คนเข้าชมหลายแสนคนเลยทีเดียวครับ ซึ่งหลักๆนอกจากสินค้าประเภทอิเล็คโทรนิคส์ ก็ยังมีสินค้า IT และผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกล้องติดรถยนต์ก็ไปออกกันหลายราย (GARMIN) ก็ไปออกนะครับ จากบทความก่อนหน้าว่าเปิดตัวสินค้าใหม่
 



สำหรับผู้ที่สนใจจะไปแวะชม ก็ไปส่องดูได้ที่ booth number 80002

ความคืบหน้ามีอะไรใหม่ๆบ้างจะแวะมาเล่าสู่กันฟังอีกที หรือถ้าอยากเฝ้าดูสินค้าหน้าเว็บ กล้องติดรถ DOD Taiwan เชิญชมที่เว็บไซท์ http://tw.dod-tec.com/product ได้ข่าวอย่างไรมาแชร์กันบ้างครับ

กล้องติดรถ GARMIN รุ่นใหม่สุด เปิดตัวในงาน CES 2014

กล้องติดรถยนต์ GARMIN รุ่นใหม่ ปี 2014

กล้องติดรถยนต์ GARMIN รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2014


Garmin เปิดตัว Garmin Dash Cam™ หรือกล้องติดรถยนต์ภายใต้ Brand Garmin ซึ่งสามารถติดได้กับกระจกรถยนต์ทุกรุ่น ซึ่งสามารถบันทึกได้เป็นภาพมุม Wide และทำงานอัตโนมัติเมื่อเริ่มต้นและดับเครื่องยนต์ รวมถึงมีระบบ Gravity sensor (G-Sensor) ที่ช่วงเก็บวิดีโอไว้ต่างหากเมื่อการสั่นสะเทือนเช่น เบรคกะทันหัน หรือ อุบัติเหตุชนกัน เพื่อไม่ให้ไฟล์ที่สำคัญโดนลบ  กล้องติดรถ มีทั้งแบบ Build-in GPS และ รุ่นที่ไม่มี GPS ในตัว ในส่วนรุ่นที่มีนั้นตัวกล้องจะสามารถระบุวันที่ พิกัด และเวลาอัตโนมัติโดยไม่ต้องปรับตั้งเอง เพื่อความสะดวกในการย้อนดูไฟล์ทีหลัง


กล้องติดหน้ารถ GARMIN 2014 รุ่นใหม่ชื่อ GARMIN Dash Cam 10 และ GARMIN Dash Cam 20



กล้องติดรถสามารถเลือกบันทึกที่ความละเอียด 1080p, 720p หรือ WVGA ซึ่งไฟล์วิดีโอจะถูกวนทับอัตโนมัติเมื่อเมมโมรี่เต็ม และในชุดจะแถม 4 GB microSD™ card ให้ด้วย ซึ่งตัวเครื่องสามารถรองรับการ์ดได้สูงสุด 32 GB หากไม่เพียงพอต่อความต้องการ

หากเป็นรุ่นที่มี GPS เมื่อเกิดการชนกระแทก ตัวกล้องที่มีระบบ G-Sensor นอกจากสามารถเก็บบันทึกช่วงเวลา ก่อนและหลังการชนเพื่อล๊อคไฟล์ไว้ต่างหากได้เลย รวมถึงวันที่ เวลาพิกัดที่เกิดเหตุด้วย

กล้องหน้ารถรุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับจอ 2.3 นิ้ว ขนาดเล็กติดตั้งได้ง่าย มาพร้อมขาติดกระจกและสายไฟชาร์จรถจากช่องจุดบุหรี่ ตัวกล้องสามารถถ่ายภาพนิ่ง Snapshot เก็บไว้ได้ด้วย

โดยรุ่นใหม่มีชื่อว่า Garmin Dash Cam 10 (ไม่มี GPS ในตัว) ราคาขายปลีกอยู่ที่ $219.99 หรือประมาณ 7,500 บาท และรุ่น Garmin Dash Cam 20 (มี GPS) ราคา $249.99 หรือประมาณ 8,500 บาท ทั้งสองรุ่นคาดว่าจะวางตลาดในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 นี้

ภายใต้ Concept เดิมเหมือนทุกผลิตภัณฑ์ของ Garmin คือ ไม่ได้แจ้งว่าใช้ Chipset Processors หรือ Image Sensor ตัวไหนครับ

Chipset Processors ประเภทต่างๆในกล้องติดรถยนต์ Car DVR และ Action Camera

เชื่อว่าหลายๆคนที่สนใจกล้องติดรถยนต์ น่าจะพอเห็นว่ามีชื่อ Chipset ต่างๆที่ทางร้าน หรือเว็บไซท์โปรโมทกันอยู่บ้าง แม้ว่าเบื้องต้นอาจจะอ่านไม่รู้เรื่องก็ตามที แต่ก็ต้องคุ้นตา เช่น Novatek, Tiotek, Ambarella วันนี้พอมีเวลาหาข้อมูลเบื้องต้นให้พอทราบกันครับ ว่าคืออะไรแตกต่างอะไร ยังไง




Chipset Processors ประเภทต่างๆที่ใช้ในกล้องติดรถยนต์จีน และ กล้องติดหน้ารถยี่ห้อ ต่างๆ

สำหรับ Chipset ที่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับ Top และ กล้องแบรนด์ต่างๆเลือกใช้กัน โดยมากรู้จักกันมีอยู่ 5 Brand นั่นก็คือ Novatek, CSR-Zoran, Ambarella, Texas Instruments และ Allwinner ซึ่งในไทยเราคุ้นกันแน่นอน 2 ตัว คือ Novatek และ Ambarella และส่วน Chipset ระดับล่างๆก็มีอยู่คือ Syntek Semiconductor, iCATCH, SQ Technology และ Core Logic

ใน Blog นี้ขอพูดเฉพาะ Processor ที่เห็นกันเยอะๆในเมืองไทย ส่วนรุ่นอื่นๆหากสนใจแนะนำให้ไปอ่านต่อที่เว็บนอก ลิงค์อยู่ด้านล่างบทความนี้




Ambarella


Ambarella เป็น Processor ที่ได้รับความนิยมสูงจากหลายแบรนด์ดังเช่น GoPro


เป็น Processors ที่ราคาสูงที่สุด (ในข้อมูลที่ผู้เขียนมี) และเป็นที่นิยมมากสำหรับกล้องติดรถยนต์ หรือกล้อง Action Camera ที่บันทึกวิดีโอแบบ 1080P ซึ่ง Processor Ambarella นี้มีอยู่หลายรุ่น ซึ่งบริษัทนี้ผลิตตัว Processor ออกมาใช้กับกล้องหลายลักษณะทั้ง IP Cameras, Wearable Cameras, Sports Cameras และ Automotive Cameras เรียกง่ายๆว่า กล้องครบแทบทุกประเภท

โดยมากกล้องที่ราคาแพงมักจะอ้างว่าใช้ Ambarella Processors แล้วก็จบ ถ้าไม่รู้อะไรเลยอ่านก็จะคิดว่าต้องเป็นกล้องเกรดดีแน่ๆ แต่ไม่ใช่อย่างนั้น


Ambarella นั้นยังมีแบ่งประเภทความสามารถตัวชิพเป็นขั้นบันไดอีก โดยเรียกเป็นรหัสเช่น A2s60, A2s70 ตัวเลขที่ขีดเส้นใต้ไว้ขอเรียกว่าเลขต้น ซึ่งยิ่งเลขหลัง A ยิ่งสูงคือยิ่งใหม่ ปัจจุบัน Ambarella ออกมาถึง A9 แล้ว ส่วนเลขด้านหลังที่เป็นสีแดงก็เรียงตามลำดับเกรดดี ไปจนถึงดีมากอีก คือยิ่งสูงทั้งคู่ยิ่งดี

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด
PAPAGO P2 ใช้ Ambarella A2s70
PAPAGO P3 ใช้ Ambarella A5s90 << จึงเป็นสาเหตุที่ PAPAGO P3 ถ่ายได้คมชัดกว่า PAPAGO P2
GOPRO Hero3 Black Edition ใช้ Ambarella A770


กล้องแบรนด์ดังระดับโลกราคาหลักหมื่นอย่าง GOPRO Hero3 ราคาปัจจุบัน 14,500 บาท ถ่ายได้ชัดกว่ากล้องติดรถยนต์จีน หรือไต้หวัน ก็ถือว่าไม่น่าแปลกใจเพราะเลือกชิพที่ดีสุดเสมอ เป็นเหตุผลที่ดีกว่าว่าคุณไม่ควรเปรียบเทียบความชัดทั้งเรื่องราคาและชิพ


ตามโฆษณาที่ชอบอ้างว่าแบรนด์นู้นแบรนด์นี้เป็นคู่ปรับ GOPRO ก็บอกตามตรงว่ายาก เพราะแค่เริ่มต้นก็ใช้ Processors ที่แตกต่างกันแล้ว

ประวัติของ Ambarella คร่าวๆ ว่ารุ่นไหนออกปีไหนบ้าง

2005 • A1 introduced, a single-chip 1080i60 H.264 broadcast-class encoder
2007 • A2 introduced and chosen by consumer electronics brands
2008 • A3 introduced, a single-chip 1080p60 H.264 broadcast-class encoder
2009 • A5 introduced, a 65nm video and still picture camera chip • A6 broadcast HD encoder and transcoder introduced
2010 • A5s introduced, Ambarella’s first 45nm chip
• A7 introduced, a 45nm 1080p60 HD camera chip
• S3D introduced, a full HD 3D camera solution
2011 • A7L introduced, Ambarella's first 32nm 1080p60 DSC SoC
2012 • S2 introduced, a 4K Ultra HD encoder chip targeting the IP camera market
2013 • A9 introduced, a 4K Ultra HD encoder chip targeting the consumer camera market
• A7LA introduced, an automotive video recorder camera SoC

แต่ความชัดก็ต้องตาดีจริงๆ เพราะกล้องระดับ 1080P 30FPS บอกตามตรงว่าเฉพาะจุดนี้ก็แตกต่างกันน้อยมากแล้ว

สำหรับรายละเอียดปลีกย่อย มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นมีกี่แบบนั้นขอข้ามดีกว่า เพราะเยอะเกินไป เอาเป็นว่าไปดูได้ที่ http://www.ambarella.com/


Novatek


สุดยอดชิพเซ็ทราคาถูกสำหรับ Novatek คุ้มค่า และ ราคา


สำหรับคนเล่นกล้องจริงจังอย่างเมืองนอก Novatek ไม่ใช่ทางเลือกแรก แต่ Novatek มีชื่อเสียงมากขึ้นและเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นอย่างมากในปี 2013 เนื่องจากกล้องติดรถยนต์รุ่น G1W ที่ขายดีมากไปทั่วโลกนั่นเอง ราคากล้องติดรถยนต์ที่ใช้ Novatek นั้นจะมีราคาตั้งแต่ 1xxx-3xxx เลยทีเดียว



ซึ่งเวลาเราดูโฆษณา หรือผู้ขายที่อ้างว่าใช้ Novatek นั้นยังต้องดูรายละเอียดลึกๆขึ้นไปอีก เพราะ Processor Novatek นั้นมีหลายรุ่นเช่นกัน ที่โด่งดังที่สุด คุณภาพรับได้คือ NT96650 ซึ่งสามารถรองรับการถ่ายวิดีโอได้แบบ 1080P แท้ และรองรับระบบ WDR(HDR) กล้องแบรนด์เนมส่วนใหญ่ก็เลือกใช้ชิพตัวนี้กัน อาจต่างกันที่ รูปลักษณ์ภายนอก แบรนด์ และฟังก์ชั่นนิดๆหน่อยๆ โดยรวมถือว่าดี และเรียกได้ว่าเป็น Best Buy ของปี 2013

ยังมีกล้องติดรถยนต์จีน ราคาถูกๆที่บ้านเราขายโดยพ่อค้าที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แค่เห็นเมนูเหมือนกันและพอรู้ว่าเป็น Novatek ก็รีบโฆษณาว่าถ่ายได้เป็น 1080P นั้นถือว่าไม่ใช่ เพราะ Novatek เองยังมีชิพที่ด้อยคุณภาพลงมาอีก ทำให้ราคาต้นทุนต่ำลง คือ

NT96632: 720P 30fps, (1080P 25fps เป็นแบบใช้ซอฟแวร์แปลงมา), AVI format, H.264 Compression, ไม่รองรับ WDR และ GPS

NT96220: 720P 30fps, (1080P 25fps เป็นแบบใช้ซอฟแวร์แปลงมา), M-JPEG (NOT H.264, double file size) ไม่รองรับ WDR และ GPS

กล้องจีนที่ขายกันในบ้านเราตอนนี้อาทิเช่น C600, GS8000L, F900LHD หรือกล้องประเภทที่มาในรูปทรงแบบกระจกมองหลัง ส่วนใหญ่ใช้เป็น Novatek ตัวถูกๆ ทำให้คุณภาพของไฟล์ที่ถ่ายออกมาแม้ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าดีมาก


Zoran, SQ และ Syntek


Zoran คนซื้อกล้องติดรถยนต์ ไม่ค่อยได้ยินหรอก แต่คนขายน่าจะได้เคยผ่านหูมาบ้าง

กล้องติดรถยนต์จีนที่ราคาไม่เกิน 1,000 บาทในปัจจุบันนี้น่าจะเหลือ Chipset ที่ใช้กันเพียง 2-3 แบรนด์คือ Zoran, SQ และ Syntek เนื่องจากเป็น Processors ที่ราคาถูกมาก และเน้นการถ่ายที่ความละเอียดต่ำสุด (SD) อยู่แล้ว ซึ่งความละเอียดเพียง 480P หรือที่เราเรียกว่า VGA

กล้องติดรถยนต์ DVR-027 ตัวดีๆที่ไม่ใช่ที่ขายกัน 400-500 บาทในสมัยนี้ สมัยก่อนใช้ Zoran ซึ่งก็มีหลายเกรดอีกนั่นแหละ แต่สามารถถ่ายได้เป็น 720P ถึง 1080P แท้ๆเลยทีเดียว และดีกว่าอีก 2 แบรนด์ที่เหลือ ซึ่งสมัยนี้ลดเกรดมาใช้เหลือเพียง SQ และ Syntek ซึ่งถ่ายได้ชัดที่สุดเพียง 480P แต่ใช้ซอฟแวร์ขยายไฟล์ให้ได้เป็น 1080P หลอกๆนั่นเอง

สำหรับผู้อ่านที่สนใจแนะนำไปอ่านต่อได้ที่ http://dashcamtalk.com/dash-cam-processors/

วันนี้ขอลาไปก่อนสวัสดีปีใหม่ปี 2014 ครับ

About

เนื้อหาที่อยู่หน้าเว็บไซท์นี้ เกิดจากความชอบและความสนใจของผู้เขียน ในเรื่องกล้องติดรถยนต์ ที่คิดว่าคนขับรถทุกคนน่าจะมีติดไว้ ไม่ว่าจะเป็นกล้องติดรถแบบถูกหรือแพง เราติดเพื่อป้องกันความผิดที่เราไม่ได้เป็นผู้กระทำ ยอมรับในสิ่งที่เราทำผิดพลาด และปฏิเสธการยอมรับความผิดจากมิจฉาชีพหรือผู้ขับขี่ที่ไม่มีมารยาทในสังคมไทย

Link List

Thank You

หากมีผู้ใดต้องการร่วมด้วยหรือต้องการแชร์ข้อมูล โฆษณา หรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับกล้องติดหน้ารถเสามารถส่งอีเมล์หาเราเพื่อแชร์ได้ตามสะดวก
ขอบคุณทุกที่มาของเนื้อหาที่ทางผู้จัดทำเว็บไซท์ได้คัดลอกมา ทั้งที่ขออนุญาต และไม่ได้ขออนุญาตมา ณ​ ที่นี้ เพื่อให้เป็นความสะดวก รวดเร็วในการหาข้อมูลของผู้ต้องการหากล้องติดรถยนต์ไว้ในครอบครอง